วันพฤหัสบดีที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2561

“พลูคาว”



“พลูคาว” สุดยอดสมุนไพรที่กลุ่มผู้รักษาสุขภาพด้วยวิถีทางธรรมชาตินั้นรู้จักกันดี โดยมีการนำพลูคาวมาใช้ในหลายประเทศเนื่องจากสรรพคุณทางยาของพลูคาวมีหลากหลาย มีการนำมาแปรรูปให้รับประทานง่ายขึ้น มีความปลอดภัยค่อนข้างสูง จึงเป็นที่มาของการนำพลูคาวมาวิจัยพัฒนาจนกลายเป็นยาชั้นยอดจนได้ชื่อว่า "สุดยอดสมุนไพรต้านมะเร็ง"


ที่มาของพลูคาว

พลูคาวเป็นพืชล้มลุกอยู่ในวงศ์ผักคาวตอง เป็นสมุนไพรที่เป็นที่รู้จักกันดีในภาคเหนือ มีชื่อเรียกต่างๆกันไปตามแต่ละละท้องถิ่น เช่น คาวตอง (ลำปาง, อุดรธานี) คาวทอง (อุตรดิตถ์, มุกดาหาร) ผักคาวตอง ผักเข้าตอง ผักคาวปลา (ภาคเหนือ) พลูคาว (ภาคกลาง) สามารถพบได้ทั่วไปในทวีปเอเชีย เช่น เวียดนาม ญี่ปุ่น รวมทั้งประเทศไทย โดยมักพบตามพื้นที่ชื้นแฉะริมลำธาร บางพื้นที่อาจจะปลูกไว้ตามบ้านเพื่อนำมาใช้เป็นยาสมุนไพร


พลูคาวถูกนำมาใช้เป็นยาในหลายๆ ประเทศ เช่น ไทย อินเดีย เนปาล เกาหลี จีนและญี่ปุ่น เนื่องจากมีสรรพคุณทางยามากมายซึ่งช่วยรักษาและฟื้นฟูคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย รวมทั้งมีการนำมาใช้ในผู้ที่สุขภาพปกติเพื่อบำรุงร่างกายอีกด้วย


ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของพลูคาว
ลำต้น มีลักษณะกลม อวบน้ำ ผิวเปลือกสีเขียว ลำต้นเอียง บางส่วนเลื้อยไปตามพื้นดิน ตามข้อมีรากแขนงงอกออกมา ต้นมีกลิ่นคล้ายกลิ่นคาวปลา

ใบ มีลักษณะเป็นใบเดี่ยวโดยแตกใบสลับๆ กันที่ข้อของลำต้น มีรูปร่างคล้ายรูปหัวใจ มีหูใบทั้งสองข้างโคนใบเว้าเข้า ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ แผ่นใบเรียบสีเขียว ท้องใบมีสีม่วง บริเวณก้านใบเป็นกาบหุ้มรอบลำต้น

ที่มาบทความ: